• 1. ความทนทาน: ผลิตจากวัสดุ PVC คุณภาพสูงที่มีความทนทานต่อการใช้งานและสภาพอากาศ ไม่เปราะแตกง่าย
• 2. ติดตั้งง่าย: การออกแบบที่ใช้งานง่าย ทำให้การติดตั้งเป็นเรื่องที่สะดวกและรวดเร็ว
• 3. การบำรุงรักษาง่าย: ไม่ต้องการการบำรุงรักษามาก สามารถทำความสะอาดได้ง่าย
• 4. ประสิทธิภาพสูง: มีความสามารถในการกันน้ำและกันเสียงได้ดี ช่วยให้การใช้งานในพื้นที่ต่าง ๆ มีประสิทธิภาพสูงขึ้น

MAC เซาะร่อง  PVC 15 มม. x 2 ม. รุ่น JGP015 สีขาว 

เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับปิดขอบหรือเซาะร่องตามขอบต่าง ๆ เพื่อความสวยงามและเรียบร้อย โดยมีคุณสมบัติเบื้องต้นดังนี้:

• 1. วัสดุ: ทำจาก PVC ซึ่งเป็นพลาสติกที่มีความทนทาน แข็งแรง และสามารถทนต่อสภาพอากาศได้ดี
• 2. ขนาด: ความกว้าง 15 มม. ยาว 2 เมตร
• 3. สี: สีขาว ให้ความสวยงามและเข้ากับวัสดุต่าง ๆ ได้ง่าย
• 4. การใช้งาน: เหมาะสำหรับการเซาะร่องหรือปิดขอบในการติดตั้งวัสดุ เช่น กระเบื้อง พื้น หรือผนัง เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น และเพิ่มความเรียบร้อยให้กับงาน
• 5. คุณสมบัติทนทาน: ทนต่อความชื้นและสภาพแวดล้อมต่าง ๆ
• 6. ง่ายต่อการติดตั้ง: สามารถตัดแต่งและปรับขนาดได้ตามความต้องการ

อุปกรณ์นี้ช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับการตกแต่งและป้องกันขอบของวัสดุต่าง ๆ

• 1. ยี่ห้อ/รุ่น: MAC รุ่น JGP015
• 2. ขนาด:
  • ความกว้าง: 15 มม.
  • ความยาว: 2 เมตร
• 3. วัสดุ: ทำจาก PVC (โพลิไวนิลคลอไรด์)
• 4. สี: สีขาว
• น้ำหนักเบา: สามารถติดตั้งได้ง่ายโดยไม่เพิ่มน้ำหนักให้โครงสร้าง
• การใช้งาน:
  • ใช้ปิดขอบหรือเซาะร่องเพื่อเพิ่มความเรียบร้อยในงานติดตั้งกระเบื้อง ป้องกันการเสียหายของขอบกระเบื้อง และช่วยลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บจากขอบที่แหลมคม
  • เหมาะสำหรับงานก่อสร้างและตกแต่งภายในอาคาร

ขั้นตอนการติดตั้งรางเซาะร่อง PVC ในงานฉาบปูน

• 1. เตรียมพื้นผิวและรางเซาะร่อง

  • - ทำความสะอาดพื้นผิวผนังให้ปราศจากฝุ่นและสิ่งสกปรก เพื่อให้รางเซาะร่องสามารถยึดติดกับผนังได้ดี
  • - เลือกรางเซาะร่อง PVC ที่เหมาะสมกับความสูงของผนังหรือพื้นผิวที่ต้องการฉาบ

• 2. ติดตั้งรางเซาะร่องบนผนัง

  • - ใช้ระดับน้ำเพื่อวัดและทำเครื่องหมายตำแหน่งที่ต้องการติดตั้งรางเซาะร่อง เพื่อให้แนวรางตรงและได้ระนาบที่ถูกต้อง
  • - ติดตั้งรางเซาะร่อง PVC โดยใช้ปูนหรือวัสดุยึดเกาะ เช่น ปูนฉาบหรือกาวปูน ติดตามแนวที่ต้องการ โดยเว้นระยะห่างระหว่างรางแต่ละรางตามขนาดความกว้างของผนัง
  • - ตรวจสอบให้แน่ใจว่ารางเซาะร่องถูกติดตั้งในแนวที่ตรงและได้ระดับเท่ากันทั้งหมด เพื่อป้องกันไม่ให้ปูนฉาบมีความหนาหรือบางเกินไปในบางจุด

• 3. เริ่มฉาบปูน

  • -หลังจากติดตั้งรางเซาะร่องเรียบร้อยแล้ว สามารถเริ่มฉาบปูนได้ โดยให้ฉาบตามแนวรางที่ติดตั้งไว้
  • - ใช้เกรียงหรือเครื่องมือฉาบปูนลากตามแนวรางเซาะร่องเพื่อให้ได้พื้นผิวที่เรียบเนียนสม่ำเสมอ โดยรางจะทำหน้าที่เป็นแนวอ้างอิงในการรักษาความหนาของปูน
  • - หากจำเป็น ให้ฉาบปูนเพิ่มเติมในจุดที่มีความหนาไม่สม่ำเสมอจนกว่าผิวผนังจะเรียบเท่ากัน

• 4. ถอดรางเซาะร่องออก

  • - หลังจากปูนที่ฉาบแห้งตัวจนแข็งพอสมควร (ควรรอประมาณ 1-2 วัน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ) ให้ถอดรางเซาะร่อง PVC ออก
  • - รางเซาะร่อง PVC ถูกออกแบบมาให้สามารถถอดออกได้ง่าย โดยไม่ทำลายหรือทิ้งร่องรอยบนพื้นผิว

• 5. เก็บรายละเอียด

  • - หลังจากถอดรางออกแล้ว หากมีร่องที่เกิดจากการถอดราง สามารถใช้เกรียงเล็กหรือปูนฉาบในการเก็บรายละเอียดเล็กน้อยให้เรียบเนียน
  • - ตรวจสอบผนังให้ทั่ว เพื่อให้มั่นใจว่าพื้นผิวสม่ำเสมอและพร้อมสำหรับขั้นตอนการตกแต่งเพิ่มเติม เช่น การทาสีหรือติดตั้งกระเบื้อง

รางเซาะร่อง PVC ถูกใช้เพื่อควบคุมความหนาของปูนฉาบให้สม่ำเสมอ ช่วยให้การฉาบผนังเป็นเรื่องง่าย และทำให้ผนังออกมาเรียบเนียนเหมือนมืออาชีพ