ฟูกที่นอน
เปลี่ยนวันเหนื่อยล้าของคุณให้ผ่อนคลายตลอดทั้งคืนด้วย ที่นอน เฟอร์นิเจอร์ชิ้นสำคัญที่ทุกห้องนอนต้องมี ซึ่งปัจจุบันที่นอนก็มีหลายประเภทให้เลือกสรร ดังนั้นเมื่อถึงคราวต้องซื้อที่นอนใหม่จึงต้องพิถีพิถันในการเลือกเพื่อให้ได้ที่นอนที่ตอบโจทย์ความต้องการของตัวเองมากที่สุด เพื่อให้คุณได้สัมผัสความผ่อนคลายหลับสบายทุกท่วงท่าแห่งการนอน
Global House ศูนย์รวมเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ตกแต่งบ้านแบบครบวงจร เรารวบรวมเฟอร์นิเจอร์ห้องนอนไม่ว่าจะเป็นเตียงนอน ที่นอน โต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เสื้อผ้าหลากหลายดีไซน์ให้คุณเลือกซื้อได้ตามความต้องการ พร้อมราคาและโปรโมชันสุดพิเศษที่คุณไม่ควรพลาด
ประเภทของที่นอน
ที่นอนที่วางจำหน่ายตามท้องตลาดมีอยู่ด้วยกัน 5 ประเภท ได้แก่
ที่นอนยางพารา ตัวเลือกแรกๆ ที่หลายคนนึกถึงเมื่อจะซื้อที่นอนใหม่ เพราะเป็นที่นอนสุขภาพที่ช่วยลดอาการปวดเมื่อยของกล้ามเนื้อได้ดี เนื่องจากผลิตจากวัสดุธรรมชาติ ทำให้ที่นอนยางพารามีความยืดหยุ่นสูงกว่าวัสดุอื่น ไม่นิ่มและไม่แข็งจนเกินไป กระจายแรงกดทับและรองรับสรีระของผู้นอนได้ดี แค่ล้มตัวลงนอนก็หลับสบายตลอดทั้งคืน
ที่นอนฟองน้ำอัด ผลิตจากฟองน้ำบดชิ้นเล็กๆ ที่อัดกันแน่นจนขึ้นเป็นรูป มีความทนทาน ไม่ยุบตัวง่าย และอายุการใช้งานค่อนข้างนาน นอกจากนี้ยังให้สัมผัสนุ่มนวลคล้ายกับที่นอนยางพารา แต่มีราคาถูกกว่า เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่มีงบจำกัด
ที่นอนสปริง เป็นอีกประเภทที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย โดดเด่นในเรื่องความนุ่มเด้ง ยืดหยุ่น เมื่อนอนแล้วตัวสปริงจะยุบตัวลงอัตโนมัติ ทำให้ไม่รู้สึกกดทับและไม่ปวดไหล่ขณะนอนหลับ โดยเฉพาะผู้ที่ชอบนอนตะแคง นอกจากนี้ยังสามารถระบายอากาศได้ดี มีน้ำหนักเบา จึงสะดวกในการเคลื่อนย้าย
ที่นอนใยมะพร้าว ผลิตจากเส้นใยมะพร้าวที่อัดกันแน่นจนขึ้นเป็นรูป ทำให้เวลานอนจะรู้สึกได้ถึงความแน่น ยุบตัวยาก ช่วยลดปัญหาการปวดหลังจากการนอนบนที่นอนที่นิ่มจนเกินไป ตอบโจทย์คนที่ชอบที่นอนผิวสัมผัสแบบแน่นๆ
ที่นอนเมมโมรี่โฟม อีกหนึ่งที่นอนสุขภาพยอดฮิต ผลิตจากโพลียูรีเทนที่มีความหนาแน่น เป็นที่นอนสุขภาพสำหรับคนรักสุขภาพอย่างแท้จริง เพราะมีความยืดหยุ่นสูง สามารถรองรับสรีระได้ตามหลักสรีรศาสตร์ในทุกสภาวะแรงโน้มถ่วงและกระจายแรงกดทับได้ดี หมดปัญหาปวดเมื่อยหลังจากตื่นนอน
เลือกซื้อที่นอนแบบไหนดี
1. เลือกจากขนาดที่นอน
ขนาดที่นอนมีให้เลือกตั้งแต่ 3, 3.5, 5 และ 6 ฟุต ดังนั้นควรเลือกขนาดที่นอนให้สัมพันธ์กับจำนวนของผู้นอน เช่น ที่นอนขนาด 3 หรือ 3.5 ฟุต เหมาะสำหรับนอนคนเดียว ที่นอนขนาด 5 ฟุต เหมาะสำหรับนอน 2 คน และที่นอน 6 ฟุต เหมาะสำหรับ นอน 2-3 คน เป็นต้น นอกจากนี้ขนาดที่นอนที่ดี เมื่อนอนแล้วเท้าต้องไม่เกินขอบที่นอน และควรมีพื้นที่มากพอให้เคลื่อนไหวและพลิกตัวได้สะดวก
2. เลือกจากประเภทที่นอน
จากข้างต้นเราจะเห็นว่าที่นอนมีอยู่ด้วยกัน 5 ประเภท ซึ่งแต่ละประเภทก็มีความแตกต่างกันทั้งเรื่องของผิวสัมผัส ความแน่น การยุบตัวของที่นอน ดังนั้นควรเลือกซื้อที่นอนให้ตรงกับความต้องการและเหมาะกับสรีระของตัวเองมากที่สุด
3. เลือกจากดัชนีมวลกาย
- ขั้นตอนแรกต้องคำนวณดัชนีมวลกาย (BMI) โดยนำน้ำหนัก (กิโลกรัม) หารด้วยความสูง (เซนติเมตร) แล้วนำค่า BMI ที่ได้มาเลือกที่นอน ดังนี้
- รูปร่างเล็ก (BMI < 18.5) ควรเลือกที่นอนที่มีระดับความนุ่มมาตรฐานไปจนถึงปานกลาง (Soft-Medium)
- รูปร่างสมส่วน (BMI 18.5 - 22.9) ควรเลือกที่นอนที่มีระดับความนุ่มปานกลางไปจนถึงค่อนข้างแน่น (Medium-Firm)
- รูปร่างใหญ่ (BMI > 23) ควรเลือกที่นอนที่มีระดับความนุ่มปานกลางไปจนถึงค่อนข้างแน่น (Medium-Firm)
ข้อควรระวังในการเลือกที่นอน
ไม่ควรเลือกฟูกที่นอนที่มีความนุ่มจนเกินไป เพราะจะทำให้เกิดการยุบตัวขณะนอน ส่งผลให้มีปัญหาปวดเมื่อยกล้ามเนื้อตามมาได้
ควรเปลี่ยนที่นอนเมื่อไร
คุณอาจจะรู้สึกเสียดายเงินถ้าต้องซื้อที่นอนใหม่ เลยตัดสินใจใช้ที่นอนเก่าไปเรื่อยๆ รู้ตัวอีกทีก็เกิดผลเสียต่อสุขภาพเสียแล้ว ดังนั้นลองมาดูสัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่าถึงเวลาที่คุณควรเปลี่ยนที่นอนได้แล้ว
- ที่นอนมีอายุ 7-10 ปี ซึ่งเป็นอายุการใช้งานเฉลี่ยของที่นอน เมื่อถึงช่วงเวลานี้จึงควรเปลี่ยนใหม่
- มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ แม้จะทำความสะอาดหรือนำไปตากแดดแล้ว
- มีเสียงรบกวน มักเกิดกับที่นอนสปริง เนื่องจากขดลวดด้านในเสื่อมสภาพ
- เกิดอาการแพ้ เนื่องจากการสะสมของเชื้อโรค แบคทีเรีย และไรฝุ่น
- บริเวณขอบหรือผิวชั้นนอกขาดหลุดลุ่ย
- ปวดเมื่อยตามร่างกายหรือปวดหลังทุกครั้งที่ตื่นนอน
Global House ศูนย์รวมเฟอร์นิเจอร์ห้องนอน คัดสรรคุณภาพจากหลากหลายแบรนด์ดัง หากคุณกำลังมองหาที่นอนคุณภาพดี ผลิตจากวัสดุที่มีความคงทน สามารถเลือกซื้อออนไลน์พร้อมบริการจัดส่งที่เว็บไซต์ Global House ได้ทันที หรือเข้ามาเลือกของจริงได้ที่ร้าน ซึ่งมีสาขาให้บริการทั่วประเทศ เรายินดีให้บริการเพื่อให้คุณได้สินค้าตรงความต้องการมากที่สุด