ตื่นนอน ไร้อาการปวดหลัง! เผยเคล็ดลับง่ายๆ เพื่อการนอนที่ดีขึ้น

เคล็ดลับการเลือกที่นอนเพื่อการตื่นอย่างไร้อาการปวดหลัง

การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพที่ดี แต่หากคุณตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดหลังทุกเช้า นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าถึงเวลาที่คุณต้องเปลี่ยนที่นอนใหม่แล้ว การเลือกที่นอนสำหรับห้องนอนให้เหมาะสมกับสรีระของคุณ จะช่วยลดอาการปวดหลัง และทำให้คุณได้พักผ่อนอย่างเต็มที่

หัวข้อที่น่าสนใจ

ทำไมที่นอนถึงมีผลต่ออาการปวดหลัง?
เคล็ดลับการเลือกที่นอน เพื่อการตื่นอย่างไร้อาการปวดหลัง
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
แนะนำที่นอน เพื่อบรรเทาอาการปวดหลัง

อยากนอนหลับสบาย ปราศจากอาการปวดหลัง? ที่นอนสุขภาพคือคำตอบ! มาเรียนรู้วิธีเลือกที่นอนสุขภาพที่เหมาะกับสรีระของคุณ เพื่อการพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบ กับบทความจาก Global House กันได้เลย

ทำไมที่นอนถึงมีผลต่ออาการปวดหลัง?

ที่นอนสำหรับห้องนอนที่ดีจะช่วยรองรับสรีระของคุณในขณะนอนหลับ ช่วยให้กระดูกสันหลังอยู่ในแนวตรง และลดแรงกดทับที่อาจทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หากที่นอนของคุณแข็งหรืออ่อนเกินไป หรือไม่สามารถรองรับสรีระได้ดีพอ ทำให้เกิดแรงกดทับในบางจุดหรือทำให้กระดูกสันหลังไม่ได้อยู่ในแนวที่เหมาะสม ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการปวดหลังได้ สาเหตุที่สำคัญที่ทำให้ที่นอนส่งผลต่ออาการปวดหลัง มีดังนี้

1. การรองรับกระดูกสันหลังไม่ดี ที่นอนที่นุ่มหรือแข็งเกินไปอาจทำให้กระดูกสันหลังอยู่ในท่าที่ไม่ถูกต้อง ทำให้เกิดแรงกดทับที่หลังและคอ ที่นอนที่มีความแน่นพอดีสามารถช่วยรักษากระดูกสันหลังให้อยู่ในแนวตรง ซึ่งจะลดการกดทับและอาการปวดหลังได้

2. การกระจายแรงกดไม่เท่ากัน ที่นอนที่มีการกระจายแรงกดไม่เท่ากัน อาจทำให้เกิดจุดที่รับน้ำหนักมากเกินไป เช่น บริเวณสะโพกและไหล่ การนอนในท่าเดิมนานๆ บนที่นอนที่ไม่ได้กระจายแรงกดอย่างเหมาะสม อาจทำให้กล้ามเนื้อและข้อต่ออักเสบและทำให้เกิดอาการปวดหลัง

3. ความสมดุลระหว่างการรองรับและความสบาย ที่นอนที่ให้การรองรับไม่ดีหรือมีความแน่นเกินไป อาจไม่สามารถปรับตามแนวโค้งตามธรรมชาติของร่างกาย ทำให้หลังและกระดูกสันหลังต้องปรับตัวเข้ากับที่นอน ซึ่งอาจทำให้เกิดการบิดหรือการดึงกล้ามเนื้อที่มากเกินไป ส่งผลให้เกิดอาการปวดหลัง

4. การเสื่อมสภาพของที่นอน เมื่อที่นอนใช้งานไปนานๆ จะเริ่มสูญเสียความสามารถในการรองรับน้ำหนักและการกระจายแรงกด อาจทำให้เกิดแอ่งในบางจุด ซึ่งเป็นสาเหตุให้กระดูกสันหลังไม่ตรงและทำให้เกิดอาการปวดหลัง

5. การนอนในท่าที่ไม่เหมาะสม หากที่นอนทำให้คุณนอนในท่าที่ไม่สบายหรือไม่เหมาะสม การนอนท่านั้นๆ เป็นเวลานานๆ จะส่งผลต่อกระดูกสันหลังและข้อต่อต่างๆ ทำให้เกิดการอักเสบและปวดหลัง

เคล็ดลับการเลือกที่นอน เพื่อการตื่นอย่างไร้อาการปวดหลัง

เผยเคล็ดลับการเลือกที่นอนดีๆ เพื่อสุขภาพที่ดี หลับสบาย ตื่นเช้าไร้ปวดหลัง พร้อมแนะนำชนิดของที่นอนที่เหมาะกับสรีระของคุณ

1. พิจารณาความแข็งของที่นอน

ที่นอนแข็ง: เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบนอนคว่ำ หรือมีปัญหาเรื่องอาการปวดหลังเรื้อรัง

ที่นอนปานกลาง: เหมาะสำหรับคนส่วนใหญ่ ช่วยรองรับสรีระได้ดี

ที่นอนนุ่ม: เหมาะสำหรับผู้ที่มีน้ำหนักน้อย หรือชอบนอนตะแคง

2. เลือกวัสดุที่นอน

ที่นอนยางพารา (Natural Latex): รองรับสรีระได้ดี ยืดหยุ่นสูง ช่วยกระจายน้ำหนัก ระบายอากาศได้ดี ทนทาน ไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้ฝุ่น ราคาค่อนข้างสูง และมีน้ำหนักมาก ทำให้ยากต่อการเคลื่อนย้าย

ที่นอนสปริง (Innerspring): โครงสร้างสปริงช่วยรองรับน้ำหนักและกระจายแรงกด มีความยืดหยุ่นสูง แต่ควรเลือกแบบที่มีสปริงอิสระ เพื่อรองรับสรีระได้ดีกว่า อาจเกิดเสียงดังได้เมื่อขยับตัว หากสปริงไม่ดี อาจทำให้เกิดอาการปวดหลัง

ที่นอนเมมโมรีโฟม (Memory Foam): วัสดุที่นุ่มและยืดหยุ่นสูง รองรับสรีระได้ดีเยี่ยม ช่วยลดแรงกดทับ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาปวดเมื่อย แต่ระบายอากาศได้น้อยกว่าชนิดอื่นๆ

ที่นอนไฮบริด (Hybrid Mattress) : ผสมผสานข้อดีของที่นอนหลายประเภท ให้ความรู้สึกนุ่มสบายและรองรับสรีระได้ดี ระบายอากาศได้ดี ราคาค่อนข้างสูงกว่าที่นอนทั่วไป

โฟมโพลียูรีเทน (Polyurethane Foam): เป็นโฟมสังเคราะห์ที่มีน้ำหนักเบาและยืดหยุ่นพอสมควร มักใช้เป็นชั้นรองพื้นในที่นอนแบบสปริงหรือไฮบริด มีราคาถูก และน้ำหนักเบา

ฟูกแบบธรรมชาติ (Natural Fiber): ใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น ฝ้าย ขนสัตว์ หรือมะพร้าว เพื่อให้ความรู้สึกที่แน่นและระบายอากาศได้ดี ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม ระบายอากาศดี แต่จะไม่ยืดหยุ่นเท่าเมมโมรี่โฟมหรือยางพารา

ที่นอนเป่าลม (Air Mattress): ใช้ลมในการรองรับร่างกาย สามารถปรับระดับความนุ่ม-แข็งได้ตามต้องการ เหมาะสำหรับการใช้งานชั่วคราว

3. พิจารณาน้ำหนักและสรีระ

น้ำหนักและสรีระของแต่ละคนแตกต่างกัน ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก ควรเลือกที่นอนที่มีความแข็งแรงและรองรับน้ำหนักได้ดี หรือผู้ที่ชอบนอนคว่ำ ควรเลือกที่นอนแข็ง ผู้ที่ชอบนอนตะแคง ควรเลือกที่นอนที่นุ่มปานกลาง

4. พิจารณาขนาดที่นอน

เลือกขนาดที่นอนให้เหมาะสมกับขนาดของเตียง และพื้นที่ในห้องนอน โดยทั่วไปที่นอนควรมีขนาดใหญ่กว่าความสูงของคุณอย่างน้อย 10-15 ซม. และมีความกว้างพอที่จะให้คุณสามารถนอนขยับตัวเคลื่อนไหวอย่างสะดวก

5. อายุการใช้งาน

ที่นอนมีอายุการใช้งานประมาณ 7-10 ปี ที่นอนมีอายุการใช้งานจำกัด การเปลี่ยนที่นอนใหม่เป็นระยะจะช่วยให้คุณได้นอนหลับที่สบายมากขึ้น

6. การรับประกัน

เลือกซื้อที่นอนที่มีการรับประกัน เพื่อความมั่นใจในคุณภาพ

7. ดูแลรักษาที่นอน

เลือกที่นอนที่ทำความสะอาดง่าย เช่น สามารถใช้เครื่องดูดฝุ่นในการดูดฝุ่น หรือนำที่นอนออกมาตากแดดหรือตั้งในที่อากาศถ่ายเท ควรทำความสะอาดที่นอนเป็นประจำ เพื่อยืดอายุการใช้งานและรักษาความสะอาด

8. งบประมาณ

กำหนดงบประมาณที่คุณต้องการใช้ในการซื้อที่นอน เพื่อให้เลือกได้ตรงกับความต้องการ

9. ทดลองนอน

ก่อนตัดสินใจซื้อ ควรลองนอนบนที่นอนนั้นดูสักพัก ประมาณ 10-15 นาทีในท่าที่คุณนอนปกติ เพื่อดูว่ารู้สึกสบายและรองรับสรีระได้ดีหรือไม่

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงในการเลือกที่นอน

ที่นอนที่ยุบตัว: ที่นอนที่ยุบตัวจะไม่สามารถรองรับสรีระได้ดี ทำให้เกิดอาการปวดเมื่อย
ที่นอนที่มีเสียงดัง: เสียงดังจากที่นอนอาจรบกวนการนอนหลับ
ที่นอนที่ทำความสะอาดยาก: การเลือกที่นอนที่ทำความสะอาดยาก อาจทำให้เกิดปัญหาเรื่องสุขอนามัย

3 ที่นอนแนะนำ เพื่อบรรเทาอาการปวดหลัง

1. TRUFFLE ที่นอนยางพาราอัด Non Spring รุ่น Clinton หนา 9 นิ้ว ขนาด 6 ฟุต

คุณสมบัติเด่นของที่นอน TRUFFLE รุ่น Clinton

วัสดุยางพาราธรรมชาติ: ทำให้ที่นอนมีความยืดหยุ่นสูง รองรับสรีระได้ดี ช่วยลดแรงกดทับบริเวณไหล่ สะโพก และหลัง ด้วยความนุ่มสบายและการรองรับสรีระที่ยอดเยี่ยม ช่วยให้คุณนอนหลับได้อย่างผ่อนคลายตลอดคืน
ไร้สปริง: ช่วยลดปัญหาเรื่องเสียงดังขณะขยับตัว และให้ความรู้สึกนุ่มสบาย
ความหนา 9 นิ้ว: เพิ่มความนุ่มสบายในการนอน และรองรับสรีระได้ดียิ่งขึ้น
ระบายอากาศได้ดี: ช่วยลดปัญหาเรื่องความชื้นและไรฝุ่น
ทนทาน: วัสดุยางพาราธรรมชาติมีความทนทานสูง ใช้งานได้ยาวนาน
ลดอาการปวดเมื่อย: ช่วยลดแรงกดทับบริเวณไหล่ สะโพก และหลัง ลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
สุขอนามัยดี: วัสดุยางพาราธรรมชาติไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ และระบายอากาศได้ดี ช่วยลดปัญหาเรื่องไรฝุ่น

2. Truffle ที่นอน Pocket Spring เสริมเมมโมรี่โฟม รุ่น Belly ขนาด 5 ฟุต หนา 10 นิ้ว

คุณสมบัติเด่นของที่นอน TRUFFLE รุ่น Belly

โครงสร้างสปริงพ็อกเก็ตสปริง: สปริงแบบแยกอิสระ (Pocket Spring) ที่แต่ละตัวห่อหุ้มในถุงผ้า ช่วยให้ที่นอนรองรับน้ำหนักและสรีระแต่ละส่วนของร่างกายได้อย่างดี ลดแรงสั่นสะเทือนจากการเคลื่อนไหว ลดการกดทับบริเวณสะโพกและไหล่ ช่วยให้การนอนมีคุณภาพดีขึ้น
ชั้นเมมโมรีโฟม: ให้ความนุ่มสบาย ช่วยรองรับรูปร่างของร่างกายตามแรงกดและอุณหภูมิ ช่วยกระจายแรงกดทับ ช่วยให้กระดูกสันหลังอยู่ในท่าที่เหมาะสม และลดอาการปวดเมื่อยบริเวณต่างๆ ของร่างกายในระยะยาว
ความหนา 10 นิ้ว: เพิ่มความนุ่มสบายและรองรับสรีระได้ดียิ่งขึ้น
ระบายอากาศได้ดี: ช่วยลดปัญหาเรื่องความชื้นและไรฝุ่น
ลดอาการปวดเมื่อย: ช่วยลดแรงกดทับบริเวณไหล่ สะโพก และหลัง ลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
ทนทาน: วัสดุที่ใช้ผลิตมีความทนทานสูง ใช้งานได้ยาวนาน

3. Truffle ที่นอน Pocket Spring เสริมยางพารา รุ่น Ratex ขนาด 3.5 ฟุต หนา 12 นิ้ว

คุณสมบัติเด่นของที่นอน TRUFFLE รุ่น Ratex

โครงสร้างสปริงพ็อกเก็ตสปริง: แต่ละสปริงทำงานอิสระ ช่วยกระจายน้ำหนักได้ดี รองรับสรีระได้อย่างเป็นจุดๆ ลดแรงสั่นสะเทือนจากการเคลื่อนไหว
ชั้นยางพาราธรรมชาติ: เพิ่มความนุ่มสบาย ห่อหุ้มสรีระ ช่วยลดแรงกดทับ
ความหนา 12 นิ้ว: ให้ความรู้สึกนุ่มสบายและรองรับสรีระได้ดียิ่งขึ้น
ระบายอากาศได้ดี: ช่วยลดปัญหาเรื่องความชื้นและไรฝุ่น
รองรับสรีระได้ดี: ระบบ Pocket Spring และยางพาราช่วยให้การรองรับร่างกายดีขึ้น ลดอาการปวดหลังและอาการปวดเมื่อย
ทนทาน: วัสดุที่ใช้ผลิตมีความทนทานสูง ใช้งานได้ยาวนาน

สรุปบทความ

การเลือกวัสดุที่นอนที่เหมาะสมควรพิจารณาจากความต้องการของร่างกายและลักษณะการนอน เช่น หากคุณมีปัญหาปวดหลัง เมมโมรี่โฟมหรือยางพาราอาจเป็นตัวเลือกที่ดี หากคุณต้องการที่นอนที่ระบายอากาศดี ควรเลือกที่นอนสปริงหรือฟูกแบบธรรมชาติ โกลบอลเฮ้าส์ศูนย์รวมเฟอร์นิเจอร์ห้องนอน เตียงนอน โต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เสื้อผ้า ชุดเครื่องนอน รวมถึงสามารถช้อป ที่นอน ได้ที่ โกลบอลเฮ้าส์ ทุกสาขา หรือ App Global House Click & Collect

คุ้มค่าไปอีกขั้นแค่ สมัครสมาชิกโกลบอลคลับ ฟรี พร้อมรับสิทธิพิเศษ สำหรับ สมาชิกโกลบอลคลับ เพียงช้อปครบ 50 บาท รับ 1 คะแนน สะสมโกลบอลคลับสะสมคะแนน เพื่อแลกเป็นส่วนลดในการซื้อสินค้า ที่โกลบอลเฮ้าส์ทุกสาขา ทั่วประเทศ

สิทธิพิเศษเฉพาะสมาชิกโกลบอลคลับ เมื่อใช้คะแนนสะสม 1,000 คะแนน แลกรับคูปองแทนเงินสด 100 บาท
สิทธิพิเศษเฉพาะสมาชิกโกลบอลคลับ เมื่อใช้คะแนนสะสม 9,000 คะแนน แลกรับคูปองแทนเงินสด 1,000 บาท
สิทธิพิเศษเฉพาะสมาชิกโกลบอลคลับ เมื่อใช้คะแนนสะสม แลกซื้อเครื่องดื่ม ที่ลามายอนคอฟฟี่ทุกสาขา
สิทธิพิเศษเฉพาะสมาชิกโกลบอลคลับ ใช้คะแนนนจ่ายแทนเงินสดที่ร้านค้าถุงเงิน ผ่าน แอป Global House Click&Collect อ่านเพิ่ม >> พอยท์เพย์ คลิก <<