
จุดเด่นสินค้า
ประสิทธิภาพอย่างมืออาชีพ
รางปลั๊กไฟ DATA WL158i มี 3 ช่องเสียบ มาพร้อม USB 2 ช่องและสวิตซ์ควบคุมการจ่ายไฟ ทำให้คุณมั่นใจในความสะดวกสบาย! วัสดุทองเหลืองแท้ ช่วยนำกระแสไฟฟ้าได้ดี เพิ่มความปลอดภัยด้วยเซอร์กิตเบรกเกอร์และมาตรฐาน มอก. รองรับการใช้งานสูงสุดถึง 2300 วัตต์ เหมาะสำหรับทุกอุปกรณ์ไฟฟ้าของคุณ สายยาว 3 เมตร ให้คุณใช้งานได้สะดวกในทุกมุมห้อง สินค้าผลิตในไทย คุณภาพระดับพรีเมียมต้อง DATA!
คุณสมบัติเด่น
รางปลั๊กไฟ (มอก.) 3ช่อง 3ม. DATA WL158I-3m-2USB
- เต้ารับ 3 ช่อง ชนิดขาเสียบ 3 ขา (Universal Plug)
- มีช่องจ่ายไฟแบบ USB จำนวน 2 ช่อง
- เต้ารับใช้ทองเหลืองแท้นำกระแสไฟฟ้าและความยืดหยุ่นดีกว่าเหล็ก
- ป้องกันการใช้กระแสไฟฟ้าเกิน หรือลัดวงจรด้วยระบบเซอร์กิตเบรกเกอร์
- วัสดุพลาสติก ABS ไม่ลามไฟ
- มีสวิตช์ เปิด-ปิด สำหรับควบคุมการจ่ายกระแสไฟฟ้า
- เต้ารับและเต้าเสียบ มาตรฐาน มอก. 166-2549
- รองรับกระแสไฟได้ถึง 2300 วัตต์
- สายไฟมาตรฐาน มอก. 11 เล่ม 5-2554
- ป้องกันคุ้มครองวงเงิน 100,000 บาท ถ้าเกิดความเสียหายจากรางปลั๊กไฟ Data
- สินค้าผลิตในประเทศไทย
- ขนาดสายไฟยาว 3 เมตร

คุณสมบัติทั่วไป
ปลั๊กไฟ DATA WL158I-3m-2USB
-รางปลั๊กไฟคุณภาพมาตรฐาน มอก.
-ผลิตจากพลาสติก ABS ไม่ลามไฟ ทนความร้อนสูง
-เต้ารับทองเหลืองแท้นำกระแสไฟได้ดี รองรับปลั๊กเสียบได้หลากหลาย
-ตัดไฟเกินอัตโนมัติ ป้องกันเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ให้เกิดความเสียหาย
-เต้ารับ 3 ช่อง 1 สวิตช์ควบคุม ทั้งยังมีพอร์ต USB 2.4 A. ให้อีก 2 ช่อง
-ใช้งานได้สะดวก ทนทาน มีม่านนิรภัยป้องกันนิ้วมือสัมผัสกับวงจรไฟฟ้าด้านใน
-รองรับกระแสไฟได้ถึง 2,300 วัตต์
-สายยาว 3 เมตร เหมาะสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆในครัวเรือน อุปกรณ์ Laptop, -Smart phone ที่ต้องการเพิ่มระยะการใช้งาน
-รับประกันความปลอดภัยทุกการใช้
การรับประกัน
คำแนะนำการใช้งาน
วิธีการเลือกปลั๊กไฟให้ปลอดภัย พร้อมใช้งาน
1. พิจารณาจากความต้องการใช้งานของตัวเอง ว่าต้องการปลั๊กไฟที่มีกี่ช่องที่จะเพียงพอต่อการใช้งาน รวมถึงสวิตซ์เปิด-ปิด ที่คุณสามารถเลือกใช้งานได้ตามความต้องการ
2. เลือกความยาวของสายปลั๊กไฟ ที่เหมาะสมกับการใช้งานของตัวเอง โดยทิ้งความเชื่อที่ว่า ยิ่งยาวไว้ก่อนยิ่งดี ไปเลย เนื่องจากการที่ปลั๊กไฟสายยาวเกินไป กระแสไฟที่จ่ายอาจจะไม่คงที่ อีกทั้งถ้าไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น ยัง จะเกะกะอีกด้วย
3. วิธีเลือกซื้อง่ายๆ คือ การลองเขย่าปลั๊กไฟก่อนซื้อดู เขย่าแค่เล็กน้อยพอ เพื่อแค่ให้ได้ยินเสียง เผื่อมีอุปกรณ์ภายในชำรุด หรือหลุด แต่ถ้าเขย่าแรงมากอาจจะหลุดเพราะการเขย่าเองได้
4. ดูตรารับรองคุณภาพที่ตัวปลั๊กไฟ ซึ่งถ้าปลั๊กไฟที่ได้มาตรฐานจะมีเครื่องหมายรับรองคุณภาพ ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ตีตราไว้ด้วยที่อุปกรณ์
5. เลือกจากวัสดุที่ใช้ทำสายไฟ โดยปกติกระแสไฟที่ส่งผ่านทางสายจะไม่เกิน 250 โวลต์ ควรเลือกสายไฟที่มีการป้องกันชนวนไฟฟ้าหุ้ม 2 ชั้น เพื่อให้ปลอดภัยเวลาคุณใช้งาน ปลั๊กไฟส่วนใหญ่จะทำจากพลาสติก ซึ่งพลาสติกที่ดีควรเป็นพลาสติก AVC,ABS,PC ซึ่งจะมีผิวเรียบและทนทานกว่าแบบ PVC ทั่วไป
6. เช็คก่อนซื้อ สายดินสำคัญ เมื่อกระแสไฟฟ้าเกิดรั่วหรือช็อต สายดินจะทำหน้าที่ดึงกระแสไฟฟ้า ไม่ทำให้เป็นอันตรายต่อตัวผู้ใช้ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่อันตราย ถึงอย่างไรก็ตามคุณควรระมัดระวังไว้เสมอเป็นสำคัญ และควรเป็นปลั๊กพ่วงที่มีการป้องกันการกระชากไฟ รวมไปถึงมีม่านนิรภัย เปิด-ปิดรูปลั๊กไฟ สำหรับบ้านไหนที่มีเด็กเล็กม่านเปิด-ปิด จะเป็นตัวป้องกันเด็กๆเอานิ้วแหย่เข้าไปได้ดี อีกทั้งยังป้องกันฝุ่นละอองหรือสิ่งสกปรกเข้าไปตกค้างอยู่ในรูปลั๊กไฟได้
7. ตัวเลือกเสริมต่างๆ เป็นอีกสิ่งที่คุณสามารถเลือกได้ตามความต้องการของคุณได้ ซึ่งรูปแบบของปลั๊กไฟในปัจจุบันมีหลายหลายให้เลือก เช่น มีสวิตส์เปิด-ปิดของแต่ละช่องเสียบ ,ช่องสำหรับสายUSB
วิธีการใช้ปลั๊กไฟอย่างถูกต้อง
1.การเสียบปลั๊กไฟกับเต้ารับ ควรเสียบให้แน่ ไม่หลวม เพราะอาจทำให้กระแสไฟฟ้ารั่วส่งผลอันตรายต่อผู้ใช้
2.ไม่ควรเสียบปลั๊กไฟค้างไว้หลังจากเลิกใช้งานแล้ว
3.เลือกปลั๊กไฟที่มีกำลังไฟสอดคล้องต่อการใช้งาน เพื่อไม่ให้เกิดภาวะกระแสไฟเกิน
4.ไม่ใช้ปลั๊กไฟพ่วงกันหลายอัน ในกรณีที่ต้องการให้สายไฟยาวขึ้น หรือต้องการเพิ่มรูเสียบในการใช้งาน เพราะนั่นหมายความว่า ตามช่องข้อต่อของปลั๊กไฟอาจเกิดกระแสไฟฟ้ารั่วได้
5.จำไว้เสมอว่า ปลั๊กพ่วงเป็นอุปกรณ์แค่ใช้ชั่วคราวเท่านั้น คุณจึงไม่ควรใช้ปลั๊กไฟหรือปลั๊กพ่วงในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นต้องใช้กระแสไฟแบบถาวรตลอดเวลา เช่น ตู้เย็น เครื่องจักร เครื่องทำน้ำอุ่น
6.ปลั๊กไฟ ไม่เหมาะกับเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทที่ดึงไฟให้กระตุกตลอดเวลา อย่างเช่น ตู้เย็น,เครื่องทำความเย็น,เครื่องทำน้ำอุ่น
7.หลีกเลี่ยงการใช้ปลั๊กไฟในที่ๆมีน้ำหรือความชื้น เพราะน้ำเป็นตัวนำกระแสไฟฟ้าอย่างดี เมื่อเกิดเหตุกระแสไฟรั่วหรือช็อต
ข้อควรระวังในการใช้งาน
วิธีการเลือกปลั๊กไฟให้ปลอดภัย พร้อมใช้งาน
1. พิจารณาจากความต้องการใช้งานของตัวเอง ว่าต้องการปลั๊กไฟที่มีกี่ช่องที่จะเพียงพอต่อการใช้งาน รวมถึงสวิตซ์เปิด-ปิด ที่คุณสามารถเลือกใช้งานได้ตามความต้องการ
2. เลือกความยาวของสายปลั๊กไฟ ที่เหมาะสมกับการใช้งานของตัวเอง โดยทิ้งความเชื่อที่ว่า ยิ่งยาวไว้ก่อนยิ่งดี ไปเลย เนื่องจากการที่ปลั๊กไฟสายยาวเกินไป กระแสไฟที่จ่ายอาจจะไม่คงที่ อีกทั้งถ้าไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น ยัง จะเกะกะอีกด้วย
3. วิธีเลือกซื้อง่ายๆ คือ การลองเขย่าปลั๊กไฟก่อนซื้อดู เขย่าแค่เล็กน้อยพอ เพื่อแค่ให้ได้ยินเสียง เผื่อมีอุปกรณ์ภายในชำรุด หรือหลุด แต่ถ้าเขย่าแรงมากอาจจะหลุดเพราะการเขย่าเองได้
4. ดูตรารับรองคุณภาพที่ตัวปลั๊กไฟ ซึ่งถ้าปลั๊กไฟที่ได้มาตรฐานจะมีเครื่องหมายรับรองคุณภาพ ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ตีตราไว้ด้วยที่อุปกรณ์
5. เลือกจากวัสดุที่ใช้ทำสายไฟ โดยปกติกระแสไฟที่ส่งผ่านทางสายจะไม่เกิน 250 โวลต์ ควรเลือกสายไฟที่มีการป้องกันชนวนไฟฟ้าหุ้ม 2 ชั้น เพื่อให้ปลอดภัยเวลาคุณใช้งาน ปลั๊กไฟส่วนใหญ่จะทำจากพลาสติก ซึ่งพลาสติกที่ดีควรเป็นพลาสติก AVC,ABS,PC ซึ่งจะมีผิวเรียบและทนทานกว่าแบบ PVC ทั่วไป
6. เช็คก่อนซื้อ สายดินสำคัญ เมื่อกระแสไฟฟ้าเกิดรั่วหรือช็อต สายดินจะทำหน้าที่ดึงกระแสไฟฟ้า ไม่ทำให้เป็นอันตรายต่อตัวผู้ใช้ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่อันตราย ถึงอย่างไรก็ตามคุณควรระมัดระวังไว้เสมอเป็นสำคัญ และควรเป็นปลั๊กพ่วงที่มีการป้องกันการกระชากไฟ รวมไปถึงมีม่านนิรภัย เปิด-ปิดรูปลั๊กไฟ สำหรับบ้านไหนที่มีเด็กเล็กม่านเปิด-ปิด จะเป็นตัวป้องกันเด็กๆเอานิ้วแหย่เข้าไปได้ดี อีกทั้งยังป้องกันฝุ่นละอองหรือสิ่งสกปรกเข้าไปตกค้างอยู่ในรูปลั๊กไฟได้
7. ตัวเลือกเสริมต่างๆ เป็นอีกสิ่งที่คุณสามารถเลือกได้ตามความต้องการของคุณได้ ซึ่งรูปแบบของปลั๊กไฟในปัจจุบันมีหลายหลายให้เลือก เช่น มีสวิตส์เปิด-ปิดของแต่ละช่องเสียบ ,ช่องสำหรับสายUSB
วิธีการใช้ปลั๊กไฟอย่างถูกต้อง
1.การเสียบปลั๊กไฟกับเต้ารับ ควรเสียบให้แน่ ไม่หลวม เพราะอาจทำให้กระแสไฟฟ้ารั่วส่งผลอันตรายต่อผู้ใช้
2.ไม่ควรเสียบปลั๊กไฟค้างไว้หลังจากเลิกใช้งานแล้ว
3.เลือกปลั๊กไฟที่มีกำลังไฟสอดคล้องต่อการใช้งาน เพื่อไม่ให้เกิดภาวะกระแสไฟเกิน
4.ไม่ใช้ปลั๊กไฟพ่วงกันหลายอัน ในกรณีที่ต้องการให้สายไฟยาวขึ้น หรือต้องการเพิ่มรูเสียบในการใช้งาน เพราะนั่นหมายความว่า ตามช่องข้อต่อของปลั๊กไฟอาจเกิดกระแสไฟฟ้ารั่วได้
5.จำไว้เสมอว่า ปลั๊กพ่วงเป็นอุปกรณ์แค่ใช้ชั่วคราวเท่านั้น คุณจึงไม่ควรใช้ปลั๊กไฟหรือปลั๊กพ่วงในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นต้องใช้กระแสไฟแบบถาวรตลอดเวลา เช่น ตู้เย็น เครื่องจักร เครื่องทำน้ำอุ่น
6.ปลั๊กไฟ ไม่เหมาะกับเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทที่ดึงไฟให้กระตุกตลอดเวลา อย่างเช่น ตู้เย็น,เครื่องทำความเย็น,เครื่องทำน้ำอุ่น
7.หลีกเลี่ยงการใช้ปลั๊กไฟในที่ๆมีน้ำหรือความชื้น เพราะน้ำเป็นตัวนำกระแสไฟฟ้าอย่างดี เมื่อเกิดเหตุกระแสไฟรั่วหรือช็อต